Banner Ad

“ภาวะเอกฐานของ AI” มหันตภัย หรือ โอกาส?

ทำความรู้จัก ภาวะเอกฐานของ AI มหันตภัย หรือ โอกาส?

ปัญญา คือสิ่งที่แยกแยะมนุษย์ออกจากสัตว์เดรัจฉาน และมันก็เป็นแบบนั้นมาเป็นเวลานับล้านปีตลอดระยะเวลาที่มนุษย์ได้วิวัฒนาการแยกออกมาจากวานร และกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงภูมิที่สุดในโลก และอาจจะในจักรวาล (แล้วแต่คนจะเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริงหรือไม่) มนุษย์ได้ฝันเฟื่องถึงการคิดค้นเครื่องจักรกลที่มีความฉลาดเฉลียวและทรงปัญญาพอ ๆ กับตนมาเป็นเวลายาวนาน จนเกิดมาเป็นสิ่งประดิษฐ์โฉมใหม่ที่เป็นปฏิวัติอย่าง “ปัญญาประดิษฐ์” หรือ Artificial Intelligence ที่เรียกย่อ ๆ ว่า AI

แน่นอน หลายคนชื่นชม แต่อีกหลายคนก็เกรงกลัว ถ้าวันหนึ่ง ปัญญาประดิษฐ์เกิดฉลาดขึ้นมากว่ามนุษย์ผู้สร้าง และสามารถตัดสินใจด้วยตัวเองว่า มนุษย์ไม่มีความจำเป็นต่อการอยู่รอดของโลกใบนี้ จะเกิดอะไรขึ้น? จะเกิดสถานการณ์เหมือนในภาพยนตร์อย่าง Avengers: Age of Ultron หรือแฟรนไชส์ Terminator หรือเปล่า? สถานการณ์เช่นนั้นมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “ภาวะเอกฐานของปัญญาประดิษฐ์” หรือ AI Singularity ครับ และวันนี้เราก็จะมาอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาวะนี้ รวมถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อมนุษย์

“ภาวะเอกฐานของ AI” คืออะไร?

ในวิชาฟิสิกส์หรือวิชาดาราศาสตร์ หลายคนอาจจะคุ้นชินกับคำว่า “ภาวะเอกฐาน” หรือ singularity ว่ามันคือสภาวะของจุดศูนย์กลางของ “หลุมดำ” ที่มีความหนาแน่นมากเป็นอนันต์ แต่มีพื้นที่เป็นจุดจุดเดียว จุดเอกฐานจุดนี้ เป็นจุดที่กฎเกณฑ์ทางฟิสิกส์ของเราไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป และจนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนไหนล่วงรู้ได้ว่า ณ จุดเอกฐานมีอะไรเกิดขึ้นกันแน่? แต่คำว่า “ภาวะเอกฐาน” ก็ได้กลายมาเป็นคำอธิบายสภาพการณ์หรือสถานการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญระดับจักรวาลที่ไม่สามารถควบคุมได้

“ภาวะเอกฐานของ AI” คืออะไร?

นั่นแหละ คือ ภาวะเอกฐานของ AI มันคือสถานการณ์ที่ปัญญาประดิษฐ์มีความสามารถในการพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อย ๆ อย่างก้าวกระโดดจนมนุษย์ไม่สามารถตามทัน จนมันสามารถกลายเป็นสิ่งที่มีความสามารถ มีปัญญา และฉลาดที่สุดในโลก หรือที่เรียกว่า “Superintelligence” นั่นเอง

“ภาวะเอกฐานของ AI” จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่?

การคาดการณ์ระยะเวลาก่อนจะเกิดภาวะเอกฐานของ AI เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เพราะถ้าเกิดเราลองมองย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน เราคงจะไม่เชื่อด้วยซ้ำว่า วันหนึ่งจะมีเว็บไซต์ที่สามารถสร้างบทความ สร้างคำพูด หรือพูดคุยกับเราได้อย่างมนุษย์อย่าง ChatGPT หรือ 100 ปีก่อน ลองบอกคนสมัยนั้นดูสิว่า ในวันหนึ่ง เราจะสามารถเดินทางไปยังดวงจันทร์ และดาวเคราะห์ดวงอื่นในระบบสุริยะ สิ่งที่เราต้องการจะสื่อก็คือ เราไม่มีวันรู้ได้เลยว่า นวัตกรรมและเทคโนโลยีจะพัฒนาไปได้เร็วแค่ไหน และพัฒนาไปได้ไกลถึงไหนในช่วงเวลา 10 ปี หรือ 100 ปี

“ภาวะเอกฐานของ AI” และผลกระทบต่อมนุษย์

ผู้เชี่ยวชาญบางคนบอกว่า ปัญญาประดิษฐ์อาจจะฉลาดเกินมนุษย์ในระยะเวลา 20 ถึง 30 ปี หลายคนบอกว่าอาจจะเร็วกว่านั้น หลายคนบอกว่าอาจจะหลังจากนั้น หลายคนมองว่าปัญญาประดิษฐ์อาจจะไม่มีวันฉลาดกว่ามนุษย์เลย ในขณะที่หลายคนออกมาเรียกร้องให้มีการควบคุมปัญญาประดิษฐ์ในแง่มุมต่าง ๆ ทั้งจริยธรรมของการใช้ปัญญาประดิษฐ์ และกฎหมายควบคุมเนื้อหาที่ผลิตโดยปัญญาประดิษฐ์ ใครที่เคยได้ยินคำว่า “ธรรมาภิบาล AI” ก็ขอบอกเลยว่า เขากำลังหมายถึงเรื่องพวกนี้แหละ

“ภาวะเอกฐานของ AI” และผลกระทบต่อมนุษย์

แน่นอนว่า ต้องมีคนที่เห็นทั้งแง่ดีและแง่ลบ คนที่สนับสนุนปัญญาประดิษฐ์จะมองภาวะเอกฐานของ AI ว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น พวกเขามองเห็นอนาคตที่ปัญญาประดิษฐ์เข้ามาปฏิวัติวงการการแพทย์ กำจัดความยากจน หรือแม้แต่การพามนุษย์โลดแล่นไปในอวกาศ ปัญญาประดิษฐ์สามารถกำจัดงานทั้งหมดให้สิ้นไป ทำให้มนุษย์ทุกคนหลุดพ้นจากชีวิตที่จำเจ และสามารถเอาชีวิตรอดต่อไปได้โดยมีปัญญาประดิษฐ์เป็นผู้รับสนองความต้องการ รวมถึงรับความรู้ที่ไร้ขีดจำกัดจากสิ่งประดิษฐ์ที่อาจมีสถานะเทียบเทียม “พระเจ้า” จากน้ำมือของเรา

“ภาวะเอกฐานของ AI” และผลกระทบต่อมนุษย์

ส่วนคนที่ต่อต้านก็มักจะมองว่าการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ไม่สามารถแก้ปัญหาใด ๆ ในชีวิตจริงได้ เพราะสุดท้ายวัฎจักรของโลกทุนนิยมก็จะพยายามเอาเปรียบผู้คนเพื่อผลประโยชน์ทางกำไรอยู่ดี รวมถึงอันตรายที่อาจเกิดจากการปล่อยให้ปัญญาประดิษฐ์หลุดพ้นจากการควบคุม เพราะเราไม่สามารถแน่ใจได้ว่าปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้จะมีค่านิยม ศีลธรรม หรือจริยธรรมในแบบมนุษย์ ถ้าเกิดว่ามันมองมนุษย์เป็นเครื่องกีดขวางความเจริญของโลกใบนี้ขึ้นมาล่ะ? มันจะกำจัดผู้สร้างแสนสะเพร่าด้วยมือตัวเองเลยหรือเปล่า?

แต่อันตรายที่น่ากลัวยิ่งกว่า “ภาวะเอกฐานของ AI” ก็คือการพลาดโอกาสทำเงินเม็ดงาม จากรายการกีฬาระดับท็อปทั่วโลกผ่านเว็บไซต์ fun88asia8 เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ตอนนี้เลย เพื่อรับโอกาสและคำแนะนำดี ๆ มากมายในการเปลี่ยนความรู้และความหลงใหลในโลกกีฬา ให้เป็นผลกำไรที่จับต้องได้

เส้นทางที่เราต้องเลือกเพื่อป้องกัน “ภาวะเอกฐานของ AI”

มนุษย์กำลังยืนอยู่หน้าทางแยกแห่งประวัติศาสตร์ อาจจะเป็นทางแยกแห่งสำคัญที่สุดที่มนุษย์ได้เคยมายืนเลือกทางเดินก็เป็นไปได้ เราจะต้องเลือกเส้นทางในการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์โดยอาศัยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ความรับผิดชอบต่อเพื่อนมนุษย์คนอื่น ๆ รวมถึงข้อพึงพิจารณาทางศีลธรรม รวมถึงจะต้องมีความร่วมแรงร่วมใจกันจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ นักการเมือง และนักธุรกิจ ที่จะต้องมาสร้างสมดุลที่เหมาะสมที่สุดระหว่างผลประโยชน์ทางการเงิน ผลประโยชน์ต่อสังคม รวมถึงความก้าวหน้าทางนวัตกรรมและเทคโนโลยี

มนุษย์สมควรที่จะต้องทุ่มเทเงินและแรงกายลงไปในวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ เพื่อสร้างปัญญาประดิษฐ์ที่ฉลาดที่สุดเท่าที่จักรวาลแห่งนี้เคยประสบพบเจอ แต่ในขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และคุณลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์ของมนุษย์ด้วย เพื่อให้โลกของเราเดินหน้าต่อไปบนรากฐานของค่านิยมที่เป็นศูนย์กลางของคนทุกคน